รัฐบาลอินโดนีเซียกำลังวางแผนที่จะเรียกเก็บภาษีกำไรจากการลงทุนคริปโต 0.1% เช่นเดียวกับภาษีมูลค่าเพิ่มในการทำธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2022
Hestu Yoga Saksama โฆษกสำนักงานภาษีของอินโดนีเซียกล่าวว่าประเทศจะเรียกเก็บ “ภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม” สำหรับสินทรัพย์คริปโตเพราะเขามองว่า คริปโตนั้นเป็น “สินค้าตามที่กำหนดโดยกระทรวงการค้า” ของอินโดนีเซีย และ ไม่นับว่าเป็น “สกุลเงิน”
หน่วยงานกำกับดูแลการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าของอินโดนีเซียหรือที่รู้จักในชื่อ Bappebti รายงานว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ธุรกรรมคริปโต ในประเทศมีมูลค่าสูงถึง 83.8 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 5.8 พันล้านดอลลาร์ แถมจำนวนคนที่ถือครองคริปโตยังเพิ่มขึ้นมากกว่า 11% จาก 11.2 ล้านคนในปี 2021 เป็น 12.4 ล้านคนในปีนี้อีกด้วย
Bappebti ยอมรับว่าคริปโตมากกว่า 200 รายการจัดเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งสามารถซื้อขายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 และกำหนดให้บริษัทแลกเปลี่ยน 13 แห่งเป็นธุรกิจคริปโตที่ได้รับอนุญาติในเดือนกุมภาพันธ์ 2021
ในขณะที่รัฐบาลอินโดนีเซียกำลังเปิดรับและสร้างกรอบทางกฎหมายสำหรับคริปโต แต่ดูเหมือนว่าด้านวัฒนธรรมและศาสนาในอินโดนีเซียนั้นจะเป็นไปในด้านตรงกันข้าม ซึ่งประมาณ 87% ของประชากรอินโดนีเซียนั้นระบุว่าเป็นมุสลิม ซึ่งมีการกล่าวว่าการทำธุรกรรมคริปโตนั้นเป็นสิ่งที่ต้องห้ามสำหรับชาวมุสลิมภายใต้กฎหมายทางศาสนา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : cointelegraph