มีอะไรในดีล FTX ? ทำไม Voyager มองว่าไม่ได้ดีอย่างที่คิด
หลังจากที่ Voyager ยื่นล้มละลายตามกฎหมาย Chapter 11 ของสหรัฐฯ ซึ่งภายในเอกสารระบุว่าบริษัทจะปรับโครงสร้างภายในใหม่ (โดยไม่หาเงินทุนเพิ่มจากข้างนอก) ว่าง่ายๆคือจะดูดีกว่าเวลาที่ไปเจรจากับบริษัทใหม่ๆถ้าสามารถจัดการได้ด้วยตัวเองไม่ใช่การไปกู้มาในตอนที่บริษัทกำลังมีปัญหา
ซึ่งจากแพลน Voyager จะคืนเงินในรูปแบบของเงินสด, คริปโตฯ, โทเคน Voyager, หุ้นของ Voyager, และเงินบางส่วนที่ 3AC กู้ไป ทั้งหมดนี้ผสมๆกัน อย่างที่เรารู้ดีกันว่า สาเหตุของการล้มละลายในครั้งนี้ก็ไม่พ้นจากการที่ 3AC ผิดนัดจ่ายคืนเงินกู้กว่า 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็น 58% ของบัญชีกู้ (Loan Book) ที่มี
ก็ยังดูไม่มีอะไรมาก มาดูที่ FTX กันบ้าง
ข้อเสนอของ FTX ก็คือ FTX และ Alameda Research จะซื้อสินทรัพย์คริปโตฯและเงินที่ปล่อยกู้ทั้งหมดของ Voyager (ยกเว้นที่ปล่อยให้ 3AC) แล้วจะจ่ายให้เป็นเงินสดแทน ถ้าเกิดทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้อย่างเราๆก็แค่สมัครบัญชี FTX แล้วถอนออกมาได้เลย ยังไงก็ใช้เวลาสั้นกว่ารอให้เป็นไปตามแผนจาก Chapter 11 ที่น่าจะกินระยะเวลาเป็นปีๆ
แต่เดี๋ยวก่อน จุดแรกที่จะไม่แฮปปี้สำหรับสาย Hodl ก็คือ ไม่ว่าจะมีเหรียญอะไรใน Voyager ก็จะได้เป็นเงินสดมูลค่าเท่ากับวันที่ยื่นล้มละลาย ซึ่งเท่ากับว่า BTC ที่ฝากไปที่ Voyager จะกลายเป็นของ FTX แทน ยังไม่หมดแค่นั้น ค่าใช้จ่ายต่างๆที่จ่ายไปให้กับค่าดำเนินการ ค่าที่ปรึกษาทางกฎหมาย ทั้งหมดจะถูกหักค่าใช้จ่ายออกไปทั้งหมดก่อน ตัวเลขคร่าวๆสำหรับ K&E และ Moelis ตอนนี้น่าจะประมาณ 8 หลัก (เงินไทยก็คูณไปอีก 37) เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งพอหักแล้วจริงๆก็น่าจะเหลือไม่เยอะเท่าไหร่สำหรับคนฝาก
แล้วทำไม Voyager ถึงไม่พอใจในดีลนี้ ?
1. ข้อเสนอของ FTX ทำเหมือนกลายๆว่า Voyager กำลังถูกขายทอดตลาด แต่เปล่าเลย เพราะจริงๆแล้วแผนฟื้นฟู Voyager กำลังทำอยู่จะคืนคริปโตฯให้กับลูกค้าได้ด้วยซ้ำ ไม่ใช่แค่คืนเป็นเงินสดเฉยๆ
2. การที่ FTX เสนอตัวตัดหน้าการประมูลบริษัทที่เตรียมจะจัดขึ้นในปลายเดือนหน้า ทั้งที่ Voyager ก็ได้คุยกับบริษัทอื่นๆที่จะมาเข้าร่วมการประมูลไปแล้วกว่า 80 บริษัท แทนที่จะสามารถดันมูลค่าของบริษัทให้ได้สูงกว่านี้ก็เหมือนถูกตีราคาโดย FTX ไปแล้วประมาณนั้น
3. Voyager จะเสียลูกค้าไปเลยทันทีเพราะว่าลูกค้าจะต้องย้ายไปสมัครบัญชี FTX ก่อนถึงจะเอาเงินออกมาได้
จริงๆแล้วดีลนี้ก็ไม่แย่เท่าไหร่ เพราะ Sam ก็พูดถูกที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสำหรับ Chapter 11 ใช้เงินเยอะมาก เผลอๆอาจแตะไปได้ถึง 9 หลักจนกว่าจะครบในทุกขั้นตอน ในฝั่งของลูกค้าก็ยังดีถึงจะได้มาเป็นเงินสดแต่ก็หมายความว่าสามารถเอาไปใช้ได้เลยไม่ต้องรอ เพียงแต่มูลค่าที่ได้จะเป็นมูลค่าในวันที่ล้มละลายซึ่งไม่ได้สูงเท่าที่ควรเท่านั้นเอง