ETH ทะลุ $1,630 The Merge เป็นแค่เริ่มต้น ยังเหลืออีก 4 เฟส อะไรบ้าง ?
ล่าสุด Vitalik ประกาศในงาน EthCC ใน Paris ว่า หลังจากครบทั้ง 5 เฟส Ethereum จะประมวลผลได้ 100,000 ธุรกรรมต่อวินาที!!??
ซึ่งทั้ง 5 เฟสที่ว่าจะแบ่งเป็น
• The Merge
• The Surge
• The Verge
• The Purge
• The Splurge
มาดูกันต่อดีกว่าว่าแต่ละเฟสจะเป็นยังไง แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับ ETH ?
- The Merge
เฟสแรกที่เรากำลังอยู่ในตอนนี้ ซึ่งคำว่า Merge (รวม) นี้ก็มาจากการรวม Layer ของ Mainnet ที่เราใช้กันอยู่ในตอนนี้ ซึ่งเป็นกลไกฉันทามติแบบ PoW เข้ากับ the Beacon Chain ที่ใช้กลไกฉันทามติแบบ PoS
ซึ่งจะลดการปล่อย ETH จากวันละ 15,000 ETH เหลือเพียง 1,500 ETH เท่านั้น แปลว่าเมื่อเทียบกับการใช้งานแล้ว Supply จะลดลงประมาณปีละ 0.9% แทน
นอกจากนี้ยังลดการใช้พลังงานจากการเปลี่ยนกลไกฉันทามติ (ขุดไม่ได้แล้ว) ได้อีก 99.95%
ย้ำอีกครั้งว่า การอัปเกรดครั้งนี้ไม่ได้ลดค่าแก๊สนะ และก็ไม่ได้ทำให้เร็วขึ้นเช่นกัน
- The Surge (2023)
เฟสนี้จะเป็นเฟสที่ Ethereum มีการ Sharding หรือการแบ่งทั้งเครือข่ายออกเป็นส่วนเล็กๆย่อยๆแล้วกระจายให้ Node ทำงานแทนที่จะรวมไว้ที่เดียว เพื่อลดความแออัด ซึ่งเฟสนี้นี่แหละที่จะทำให้สามารถประมวลผลได้เร็วขึ้น
- The Verge
เฟสนี้จะใช้หลักการของ Verkle Tree มาช่วยลดข้อมูลความจำบน Ethereum และขนาดของ Node ที่ใช้ในการประมวลผล
ลองนึกถึงว่า โดยปกติใน 1 บล็อกก็จะมี Hash สำหรับอ้างอิงบล็อกก่อนหน้า และก็จะมี Hash ของตัวเองไว้อ้างอิงกับบล็อกถัดไป ต่อกันไปเรื่อยๆรวมเป็นสิ่งที่เราเรียกว่าบล็อกเชน
แต่ปัญหาคือพอเวลาผ่านไป ยิ่งมีข้อมูลที่มากขึ้น ใน 1 Node ก็จะต้องมีพื้นที่เพียงพอในการเก็บข้อมูลที่เกิดขึ้นให้ได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก แถมยังยากต่อการตรวจสอบเนื่องจากเวลาและการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นอีก
Verkle Tree เป็นสิ่งที่พัฒนาต่อมาจาก Merkle Tree ซึ่งเป็นโครงสร้างของข้อมูลเหมือนต้นไม้ที่มีกิ่งก้านออกไป โดยที่แต่ละก้านจะเก็บข้อมูล Hash ไว้ ภายใต้พื้นฐานเดียวกับบล็อกเชนว่า ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงในบล็อก ก็จะทำให้ค่า Hash เปลี่ยนและเราก็จะรู้ว่ามีการเปลี่ยนได้
แต่สิ่งที่แตกต่างคือ Verkle Tree จะขยายออกข้างแทนที่จะเป็นแนวดิ่งแบบ Merkle Tree แต่ใจความหลักก็คือทำให้การตรวจสอบบล็อกทำได้เร็วขึ้นและที่สำคัญคือใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลน้อยลงนั่นเอง
- The Surge
หลักๆจะไปลดขนาดพื้นที่ Hard Drive ที่จำเป็นสำหรับ Validators ด้วยการตัดข้อมูลเก่าที่เกิน 1 ปีและข้อมูลหนี้เสียออก ทำให้การจัดเก็บข้อมูลมีความคล่องตัวมากขึ้นและช่วยลดความแออัดของเครือข่ายได้
- The Splurge
มาถึงเฟสสุดท้ายที่เป็นการอัปเกรดเล็กน้อย แต่เป็นการทำให้แน่ใจว่า เครือข่ายสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นหลังจากผ่านการอัปเกรดมาใน 4 เฟสก่อนหน้านี้
นี่ก็เป็นทั้งหมดสำหรับ Roadmap เส้นทางสู่ 100,000 รายการต่อวินาทีของ Ethereum แต่อย่าลืมว่าก็เหมือนการที่ Vitalik มากาวให้ฟังนั่นแหละ ฉะนั้นต้องมาดูกันอีกทีว่าจะเลื่อนแล้วเลื่อนอีกแบบในรอบนี้หรือเปล่า 🤣🤣