รวม 6 เหตุผลที่ทำให้ Celsius Network ล้มละลาย
หลังจากจ่ายหนี้ทั้งหมดให้กับแพลตฟอร์ม DeFi ไปว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น Compound, Aave และ MakerDAO แลกกับการถอน wBTC มูลค่า $764M และ stETH มูลค่า $417M ออกมาได้ โดยการขายสินทรัพย์ที่เอาไปค้ำเพื่อวนไปจ่ายหนี้เรื่อยๆ
ล่าสุด Celsius ยื่นล้มละลายในกฎหมาย Chapter 11 ของอเมริกา ตามรอย Voyager และ 3AC จากกาลครั้งหนึ่งที่เคยเป็นแพลตฟอร์มกู้ยืมที่ใหญ่ที่สุดในตลาดคริปโตฯด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 1.7 ล้านบัญชี และมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
มาดูกันว่า แล้วมีเหตุผลอะไรบ้าง ที่ทำให้ Celsius ไม่ได้ไปต่อในซีซันนี้
1. สภาพตลาด
ในช่วงตลาดหมีแบบนี้ เป็นเรื่องปกติที่ดอกเบี้ย (yield) ใน DeFi จะต่ำเนื่องจากไม่มีคนกู้และไม่มีคนใช้ Leverage Celsius ใช้โมเดลธุรกิจที่ให้ดอกเบี้ยอัตราสูงถึง 17% เลยอยู่ยาก เพราะไม่สามารถหาดอกเบี้ยมาจ่ายให้กับคนฝากได้ คล้ายๆกับกรณีของ Anchor ที่เราก็เห็นกันแล้วว่าดอกเบี้ย 19.5% นั้นไม่ยั่งยืน
2. ปัญหาด้านสภาพคล่อง
เมื่อก่อน Celsius เคยเปิดให้สามารถ Redeem เงินที่ล็อคไว้ล่วงหน้าได้ แต่จะไม่ได้ดอกเบี้ยเพราะไม่ถึงเวลาที่กำหนด แต่ปัญหาคือ Celsius ก็ดันไปล็อค ETH ที่มีถึง 73% ไว้กับ stETH ที่มีกรณีหลุด Peg จาก ETH มาก่อนหน้านี้และแน่นอนว่าเงินถึง 73% กลายเป็นเงินที่จะถูกล็อคไว้อย่างน้อย 1 ปี แปลว่า Celsius เหลือ ETH ไว้เพียง 27% สำหรับรองรับการถอนของลูกค้าเท่านั้น หรือถ้าเลือกที่จะแลกกลับมาเป็น ETH ก่อน ยังไงก็จะไม่ได้ ETH กลับมาในมูลค่าเท่าเดิม
3. เสียหายจาก Stakehound และ Badgerdao Hack
Stakehound เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการ Staking stETH ที่ Celsius ฝากเงินไว้ถึง 35,000 ETH แต่ตอนนี้เงินเหล่านั้นหายไปในอากาศเป็นที่เรียบร้อยหลังจาก Stakehound ทำ Private Key หายไป นอกจากนี้ยังมีกรณีของ Badgerdao Hack ที่เสียหายไปกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย
4. HODL Mode
พอรู้ตัวว่าเริ่มจะไม่ไหว Celsius ก็เลยใช้ท่า HODL Mode เพื่อเพิ่มระยะเวลาในการถอนมากขึ้น โดยการขอเอกสารเพิ่มเติมสำหรับการถอนเงินออกมา ซึ่งไม่ต่างจากการ Freeze บัญชีของผู้ใช้ให้ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
5. การเทขายเหรียญ CEL จากเจ้าของเหรียญ
ถ้าดูหน้ากราฟของ CEL จะเห็นได้ว่ามีแรงขายอย่างหนักเป็นระยะๆ โดยราคาร่วงจากจุดสูงสุดเกิน 90% เป็นที่เรียบร้อย แถมยังร่วงต่ออีก 50% หลังจากการยื่นล้มละลาย นอกจากนี้ Celsius ยังมีรายงานว่าใช้เงินที่ผู้ใช้ฝากในการ Pump ราคาของเหรียญอีกด้วย จึงมีความเป็นไปได้ว่า การ Pump ราคาขึ้นมานอกจากจะทำให้ Balance Sheet ของบริษัทดูดีแล้ว ทีมงานยังมีโอกาสในการ Cash out ออกมาด้วยเหรียญที่ไม่ต้องใช้ทุนในการซื้อด้วยซ้ำ
6. การใช้ Leverage
เพิ่มเติมต่อจากรายงานที่โดนตรวจสอบ เงินของลูกค้าที่ฝากเข้ามายังเอาไปใช้ Leverage แล้วแตกอีก ซึ่งนอกจากนี้ยังมีการนำไปลงทุนกับเหมืองขุดของตัวเองที่เคยยื่นขอ IPO ไปแต่ตอนนี้ก็เข้า Chapter 11 ไปแล้วด้วยเช่นกัน
โดยสรุปง่ายๆก็คือ Celsius ยื่นข้อเสนอดอกเบี้ยสูงเกินจริง แล้วเอาเงินที่ลูกค้าฝากไปบริหารจัดการได้ไม่ดี ผสมกับกรณีที่ลงทุนแล้วเสียหายไปด้วย สุดท้ายอย่าว่าแต่ดอกเบี้ย เงินต้นยังไม่สามารถคืนได้ เลยเป็นบทสรุปของการยื่นล้มละลายในตอนนี้