Senator Warren บอกว่า ‘Bitcoin เป็นฟองสบู่’ แล้วฟองสบู่จริงไหม ?
Senator Warren เชื่อว่า Bitcoin เป็นสินทรัพย์ฟองสบู่ในศตวรรษนี้ แต่จริงๆแล้ว เหรียญคริปโตฯมีฟองสบู่ที่ใหญ่กว่านี้ในอดีตมาก่อน!?
ก่อนหน้านี้ Senator Warren ให้สัมภาษณ์กับ NBC News ใน ‘Meet the Press Reports’ เกี่ยวกับสถานะของตลาดคริปโตฯและเหรียญดิจิทัล ซึ่งก็มองแบบที่เจ้าหน้ารัฐในหลายๆประเทศมองว่าเหรียญคริปโตฯจะถูกควบคุมในที่สุด ซึ่งสหรัฐฯ เองก็น่าจะมี CBDC ของตัวเองเช่นเดียวกัน ว่าแต่ จริงๆแล้ว เราอยู่ในภาวะฟองสบู่จริงหรือไม่นะ ?
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าตลาดคริปโตฯในช่วง Bull Run เป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าสินทรัพย์อื่นๆหลายต่อหลายเท่า จากข้อมูลของ Vanguard ผลตอบแทนเฉลี่ยของการลงทุนในตลาดหุ้นอยู่ที่ประมาณ 9.9% แต่ในทางกลับกัน ในหนึ่งวันของตลาดคริปโตฯอาจจะให้ผลตอบแทนต่อวันตั้งแต่ 50% ไปจนถึงกว่า 11,177% ต่อปี
และแน่นอนว่านี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรสำหรับตลาดคริปโตฯอยู่ดี แต่ก็มีการพูดถึง Bitcoin และเหรียญดิจิทัลอื่นๆเทียบกับเหตุการณ์ Tulip Mania ในช่วงปี 1634 – 1637
ในหลายปีที่ผ่านมา มูลค่าของเหรียญคริปโตฯเหวี่ยงขึ้นลงหลายต่อหลายครั้ง แล้วจริงๆเรากำลังอยู่ในภาวะฟองสบู่ที่กำลังจะแตกจริงหรอ ? เพื่อให้เข้าใจกันมากขึ้น เรามาดูว่าตลาดนี้เป็นอย่างไรตั้งแต่จุดเริ่มต้นของมันกันเลยดีกว่า
ก่อนหน้านี้ Bitcoin ผ่านจุดที่ราคาสูงมากๆก่อนจะร่วงลงอย่างหนักมาตั้งแต่ปี 2009 มาดูเหตุการณ์ตลาดกระทิงครั้งใหญ่ของ Bitcoin ที่ผ่านมาและมาดูกันว่าแต่ละครั้งแต่จบที่ตรงไหนกันบ้าง
ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในปี 2011 ที่ Bitcoin ราคาเพิ่มขึ้นจาก $0.30 ไปแตะระดับดอลลาร์สหรัฐฯในเดือนกุมภาพันธ์ จากนั้นเพิ่มขึ้นมาเป็น 10 ดอลลาร์สหรัฐฯในเดือนมิถุนายน ก่อนจะร่วงลงไปที่ 30 ดอลลาร์สหรัฐฯภายในเวลาเพียงอาทิตย์เดียว
ฟองสบู่แตกในไม่กี่วันหลังจากวันที่ 11 มิถุนายน กดราคาลงไป 50% ที่ 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วดันกลับมาได้ถึง 20 ดอลลาร์สหรัฐฯก่อนจะร่วงอย่างหนักเหลือเพียง 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ และนี่ก็เป็นฟองสบู่ฟองแรกและฟองใหญ่ที่สุดของ Bitcoin ในตอนนี้
ในปี 2011 Bitcoin เติบโตเพิ่มมากกว่า 100x
มาดูตลาดกระทิงเมื่อเวลาผ่านไป 10 ปีกันบ้าง ในปี 2021 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ไม่ได้ราบรื่นสำหรับ Bitcoin กันซักเท่าไหร่ ราคาวิ่งขึ้นไปสุดขีดแล้วร่วงลงมาถึง 2 ครั้ง แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ Bitcoin ได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆเป็นอย่างมาก แต่ราคาก็ไม่ได้เติบโตไปมากเท่าไหร่เมื่อเทียบกับในปี 2020
Bitcoin เริ่มต้นปี 2021 ด้วยราคา 29,374 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนจะพุ่งไปแตะ 63,503 ดอลลาร์สหรัฐฯในวันที่ 13 เมษายน แล้วร่วงกลับมา 29,807 ในวันที่ 19 กรกฎาคม ซึ่งก็ฟื้นกลับไปทำจุดสูงสุดที่ 67,566 ดอลลาร์สหรัฐฯในวันที่ 11 ตุลาคมแล้วร่วงลงมาอีกรอบถึง 46,666 ดอลลาร์สหรัฐฯในเดือนธันวาคม
ซึ่งในปี 2021 ก็มีนักลงทุนระดับสถาบันเข้ามาเล่นในตลาดนี้กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น MicroStrategy ที่ประกาศว่าจะลงทุนใน Bitcoin กว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ PayPal ที่ประกาศเช่นเดียวกันว่าผู้ใช้กว่า 400 ล้านคนสามารถซื้อ, ขาย, และเก็บเหรียญคริปโตฯไว้บนแพลตฟอร์มของ PayPal ได้
นอกจากนี้ ยังมี Grayscale กองทุนคริปโตฯในสหรัฐฯที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถลงทุนในเหรียญคริปโตฯใหญ่ๆได้โดยที่ไม่ต้องถือเหรียญอะไรเลย ซึ่งก็ดูเหมือนว่ากองทุนนี้จะประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2021 และยังคงซื้อ Bitcoin เพิ่มอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2021 หลังจากเวลา 10 ปีผ่านไป Bitcoin เติบโตมาเพียง 2.3 เท่าเพียงเท่านั้น
และสำหรับปี 2022 ก็ยังคงเป็นปีที่ไม่ค่อยจะสดใสเท่าไหร่ หลังจากที่ร่วงจาก 46,000 ดอลลาร์สหรัฐฯกลับมาที่ 33,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และเริ่มดีดตัวกลับมาอยู่แถวระดับ 42,000 ดอลลาร์สหรัฐฯในตอนนี้
ซึ่งถ้ามองย้อนกลับไป ต่อให้จะมี Bull Run มากี่ปี ผลตอบแทนในช่วงหลังๆก็ยังคงน้อยลงเรื่อยๆ
แทนที่จะเรียกว่าฟองสบู่ ดูเหมือนว่าตลาดนี้จะเป็นตลาดที่กำลังเติบโตและกำลังค่อยๆลดระดับความผันผวนลงซะมากกว่า
Bitcoin และเหรียญคริปโตฯมีลักษณะที่ค่อนข้างจะคล้ายๆเป็นวัฏจักรที่มีทั้งช่วงตลาดหมีและตลาดกระทิงเหมือนกับตลาดหุ้น เพียงแต่มีความผันผวนที่รุนแรงกว่าตลาดทั่วไปเพียงเท่านั้น
Source : cryptoslate