ธนาคารกลางอังกฤษ จับมือ MIT วิจัย CBDC
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางอังกฤษประกาศว่าได้บรรลุข้อตกลงกับ Media Lab Digital Currency Initiative หรือ DCI จากสถาบันเทคโนโลยี Massachusetts (MIT) ในโครงการวิจัยร่วม 12 เดือนเกี่ยวกับ Central Bank Digital Currency หรือที่เรียกกันติดปากว่า CBDC ซึ่งทางธนาคารกลางในแถลงการณ์ว่าโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการวิจัยเท่านั้น แต่ไม่ใช่เพื่อการพัฒนา CBDC ที่สามารถนำมาใช้จริงได้
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางอังกฤษได้เริ่มศึกษา CBDC มาตั้งแต่ปี 2563 ตามเอกสารอภิปรายฉบับเดือนมีนาคมในปีนั้น ซึ่ง DCI ในตอนนั้นก็ได้ออกมาอธิปรายกลับว่า CBDC จะช่วยเข้ามาให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในเอกสารได้อย่างไร ในเดือนต่อมา ธนาคารและกระทรวงการคลังได้ตั้งคณะทำงานวิจัยในเรื่องนี้ และได้ออกเอกสารการอภิปรายล่าสุดของธนาคารเกี่ยวกับ CBDC เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ดูเหมือนจะเป็นโปรเจคใหญ่เลยทีเดียวเพราะไม่ใช่แค่ MIT เท่านั้น แต่ยังมีคณะกรรมการกิจการเศรษฐกิจแห่งสภาผู้แทนราษฎรมาร่วมอภิปรายเกี่ยวกับค่าเงินปอนด์ดิจิทัลที่อาจเกิดขึ้นในช่วงต้นปีนี้ โดยชี้ให้เห็นถึงความเร็วในการชำระเงินรวมไปถึงการชำระเงินข้ามพรมแดนที่ถูกและเร็วกว่าเดิม รวมไปถึง ความท้าทายเพื่อความมั่นคงทางการเงินและการปกป้องความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
ซึ่งธนาคารอังกฤษก็ได้จับมือกับ Federal Reserve Bank of Boston และธนาคารแคนาดาในฐานะพันธมิตรด้านการวิจัย CBDC ภายใต้ DCI ผู้ริเริ่มโครงการ OpenCBDC โดยธนาคารแคนาดาประกาศความร่วมมือนี้ออกมาในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว หลังจาก Federal Reserve Bank of Boston ประกาศจับมือกับ DCI ตั้งแต่ปี 2563
อย่างไรก็ตาม นอกจากสามแห่งที่ประกาศจับมือกับ DCI ในการวิจัย CBDC ไม่ว่าจะนำมาสร้างให้ตนเองหรือไม่ก็ตาม ก็ยังมีประเทศต่างๆอีกกว่า 60 ประเทศที่อยู่ระหว่างการวิจัย และมีโครงการนำร่องอีกประมาณ 15 โครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Dunbar ของ Bank of International Settlement Innovation Hub ที่มีผู้เข้าร่วมมากมาย อย่าง หยวนดิจิทัลโดยประเทศจีน, ออสเตรเลีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, และแอฟริกาใต้
ล่าสุด ไนจีเรียได้ประกาศเปิดตัว CBDC ของตนเอง เรียกว่า eNaira ที่พัฒนาโดย Bitt บริษัท FinTech เอกชน ซึ่งคาดว่า ในเร็วๆนี้ จาไมกาน่าจะเป็นประเทศถัดไปที่เปิดตัวเหรียญ CBDC ของตนด้วยเช่นกัน
Source : cointelegraph