เริ่มมีรายงานแล้วว่า OpenSea ตลาดซื้อขาย NFT สัญชาติสหรัฐฯ แบนผู้ใช้ชาวอิหร่านออกจากแพลตฟอร์ม เปิดดราม่าใหม่ให้เหล่านักสะสม NFT มาถกเถียงกันแล้ว ไหนบอกว่าไม่มีตัวกลางไง (decentralization)
ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผู้ใช้ OpenSea ชาวอิหร่านได้เริ่มทวีตว่าบัญชีของตนถูกระงับหรือถูกลบโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ‘Bornosor’ ศิลปิน NFT ชาวอิหร่านระบายความผิดหวังให้ผู้ติดตาม 4,700 คน จุดไฟให้ชาวทวิตเตอร์เข้ามาสนใจได้อย่างรวดเร็วกับยอดรีทวีตกว่า 342 รีทวีตและยอดไลค์หลักพันไปแล้วในตอนนี้
Bornosor เริ่มด้วย ‘นี่ไม่ใช่เช้าที่ดีเลย ตื่นมาก็พบว่าบัญชีซื้อขาย @opensea ของตัวเองถูกระงับ/ลบ โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าหรือคำอธิบายใดๆ’
งานนี้ทีมงานของ OpenSea ก็ได้ออกมาบอกว่า พวกเขามีสิทธิ์ที่จะบล็อคผู้ใช้จากประเทศที่ถูกคว่ำบาตรน่ะสิ โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า ข้อกำหนดการใช้บริการของ OpenSea ห้ามไม่ให้ผู้ใช้หรือผู้ใช้ที่ถูกแบนในพื้นที่ที่ถูกคว่ำบาตรมาใช้บริการของแพลตฟอร์ม และมีนโยบาย Zero-Tolerance สำหรับบุคคลหรือนิติบุคคลที่ถูกแบน หรือผู้ที่อยู่ในประเทศที่ถูกคว่ำบาตรในการใช้บริการ ซึ่งถ้าหากละเมิดในนโยบายข้อนี้ ก็จะถูกแบนโดย OpenSea ทั้งหมด
มาตรการการคว่ำบาตรล่าสุดของสหรัฐฯ ระบุว่าไม่อนุญาตให้บริษัทอเมริกันจัดหาสินค้าหรือบริการแก่ผู้ใช้ที่อยู่ในประเทศที่อยู่ในรายการคว่ำบาตร รวมถึงอิหร่าน เกาหลีเหนือ ซีเรีย และล่าสุดก็คือ รัสเซีย
เหตุการณ์นี้จึงเป็นตัวจุดไฟให้เกิดการถกเถียงกันอยู่ในตอนนี้ว่า บริษัทและบริการบนบล็อกเชนนั้น จริงๆแล้วเป็น Decentralize เพียงพอหรือไม่ และล่าสุด MetaMask เริ่มทำตามนโยบายการปราบปรามของมาตรการคว่ำบาตรอีกที่
อ้างอิงจากทวิตเตอร์ของ MetaMask ผู้ใช้ชาวเวเนซูเอลาถูกแบนจากการเข้าถึงกระเป๋า MetaMask ของตนเอง หลังจากบริษัทได้ขยายขอบเขตสำหรับประเทศที่เกี่ยวข้องกับการคว่ำบาตรมากขึ้น
สกุลเงินดิจิทัลและสินทรัพย์ดิจิทัล อย่าง NFT ยังคงอยู่ภายใต้การตรวจสอบกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้นจากรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากการเพิ่มความเข้มงวดของการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย
ในตอนนี้ OpenSea ยังคงเป็นตลาด NFT ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายมากกว่า 22 พันล้านดอลลาร์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง
และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตลาดคริปโตฯ เข้ามามีส่วนร่วมในความวุ่นวายเกี่ยวกับการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ จากประเด็นการแบนผู้ใช้ชาวรัสเซียออกจากกระดานเทรด โดย Binance กระดานเทรดคริปโตฯ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปฏิเสธที่จะบล็อกบัญชีสำหรับลูกค้ารัสเซียที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : cointelegraph